ผลตรวจเลือดประจำปีของผมแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด เริ่มส่งสัญญาณว่า ต้องทำอะไรสักอย่าง ถ้าไม่อยากกินยา
น้ำตาลเกินร้อย: 101 (ค่าปกติ <100)
ไขมันในเลือดโดยรวมสูง: cholesterol 257 (ค่าปกติ <200), LDL พีคขึ้นไปถึง 180 (ค่าปกติ <100), HDL ปกติ 48, triglyceride 159 (ค่าปกติ <150)
uric โรคเกาต์ สูงมาก: พีคขึ้นไปถึง 8 (ค่าปกติ <5.7)
ปลายปี 2560
มีเหตุการณ์ประทับใจไปทั่วประเทศ สร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยร่วมกันทำบุญและดูแลสุขภาพมากขึ้น โครงการก้าวคนละก้าว ของตูน บอดี้สแลม [1]
พ่อแม่และพี่ ๆ ของผมซึ่งอยู่ปัตตานี ตั้งใจจะบริจาคเงินสมทบ แต่ตูนไม่ได้วิ่งผ่านในเมือง ผมจึงอาสาจะเอาเงินไปให้ช่วงที่วิ่งผ่าน จ.สงขลา แล้วเช้าวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560 ช่วงที่ขบวนถึง อ.นาหม่อม จ.สงขลา ใกล้ ๆ บ้านผม พี่เต็ม..OSK99 ก็ใส่เสื้อชมพูฟ้าของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เอาเงินไปให้น้องตูน..OSK115
วันนั้น ผมแบกน้ำหนักตัว 73.6 กก. ไปเจอน้องตูน ทำสถิติสูงที่สุดในชีวิต
ผมเริ่มรู้ตัว ไอ้ที่เคยคิดว่าว่ายน้ำเป็นประจำ คือ ว่ายไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด แต่ไม่เร่ง ครั้งละ 1000-1500 ม. ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง น่าจะพอสำหรับวัยนี้ แล้วก็กินอะไรตามใจปากได้ ชักจะไม่จริง
เวลาเราออกกำลังเหมือนเดิมซ้ำ ๆ ร่างกายก็คงจับทางได้ ปรับตัวให้ตอบสนองเพียงแค่นั้นแบบเนีอย ๆ ไม่พัฒนาแต่กลับถดถอย หัวใจเราก็คงเหมือนกัน ผมลืมคิดถึงเรื่องเสื่อมตามวัย สะสมเพราะกินมากกว่าใช้ น้ำหนักจึงขึ้นมาเรื่อย ผลเลือดจึงค่อย ๆ แย่
ผมเริ่มคิดออกกำลังมากขึ้น ว่ายน้ำยาวขึ้น เร่งความเร็วขึ้นบ้าง เริ่มมองหาการออกกำลังอื่นบ้าง หัวใจจะได้ไม่ขี้เกียจ จนมาเห็นคลิปนี้ของ Songkhla Triathlon 2018 [2] ซึ่งจะจัดที่สงขลาใกล้บ้าน อืมม.. น่าสน
จะไหวมั้ย
ผมถามตัวเอง แล้วลองเปรียบเทียบบุญเก่า ..ผลงานเดิมของตนเองกับระยะของสงขลาไตรกีฬา [สงขลาไตรกีฬา ครั้งที่ 2 2561: สงขลา] ซึ่งเป็นไตรกีฬาระยะ Sprint: ว่ายน้ำ 750 ม.- ปั่นจักรยาน 20 กม. - วิ่ง 5 กม.
ว่ายน้ำ
สบายมาก ผมว่าย 1000-1500 ม. แบบต่อเนื่องเป็นประจำ มีกังวลนิดหน่อยบ้าง ก็เรื่องไม่เคยว่ายในทะเล หรือ open-water ซึ่งน่าจะยากกว่าในสระ ทั้งคลื่น ทั้งน้ำขุ่น
ปั่นจักรยาน
กังวลมากถึงมากที่สุด ผมมีเสือภูเขาอยู่คันนึงกับเขาเหมือนกัน แต่ใช้ปั่นใกล้ ๆ ไม่เกินกิโล แบบที่เรียกว่า ปั่นไปตลาด แต่ไม่รู้เป็นไง ปั่นทีไร ถูกหมาข้างถนนวิ่งไล่ทุกที จนกระทั่งปั่นไปวัด แล้วถูกหมาวัดหมู่รุมวิ่งไล่ ถึงได้รู้จากชาวบ้านว่า ที่พวกมันเจาะจงวิ่งไล่เฉพาะผม เพราะได้กลิ่นหมาของผมที่จักรยาน ตั้งแต่นั้นมา ผมก็เข็ด เลิกปั่นไปเลย ปัญหาสำคัญอีกเรื่อง คือ ฝีมือปั่นจักรยานผมอ่อนมาก ย้ำว่า..มือ ไม่ใช่เท้า คือ ทรงตัวไม่เก่ง มีเซมีแฉลบลงข้างทางเรื่อย ๆ จนต้องปรับคุณเสือให้ขายืนถึงกันล้ม ซึ่งไม่เหมาะกับการปั่นแข่งขัน
วิ่ง
กังวลไม่มาก ผมวิ่ง 2-3 กม.แถวบ้านอยู่บ้าง เป็นเส้นทางเนินเขา แต่วิ่งแล้วชอบปวดเข่า โดยเฉพาะขาลง ผลงานดีที่สุดที่ผ่านมา คือ วิ่งมากกว่าเดินประมาณ 5 กม. จากหน้าสวนสาธารณะหาดใหญ่ถึงมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในงาน 3gether : Run & Ride for Life [3] ของโรงเรียนแพทย์ส่วนภูมิภาค 3 สถาบัน เมื่อ 28 กรกฎาคม 2560
เอาน่า.. ซ้อมวิ่งกับปั่นเพิ่มหน่อย ยังพอมีเวลา คงจะจัดเดือนมีนาคมเหมือนเดิม แล้วตัดสินใจเลือกวันปีใหม่วันนี้ เริ่มชีวิตใหม่ ออกไปซ้อมวิ่งเพื่อไตรกีฬาเป็นวันแรก
Links:
No comments:
Post a Comment